การตั้งครรภ์แฝดจากการรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์

อุบัติการณ์ครรภ์แฝดตามธรรมชาตินั้นแตกต่างกันในแต่ละประเทศ การตั้งครรภ์แฝดอาจเกิดจากไข่คนละใบ ลักษณะทารกจะต่างกันคล้ายๆกับพี่และน้องที่ไม่เหมือนกัน (Dizygotic twinning) กรณีแฝดจากไข่ใบเดียวกัน ลักษณะทารกจะคล้ายกันที่เราเรียกว่าแฝด เหมือน(Monozygotic twinning)

การรักษาภาวะมีบุตรยากมีโอกาสตั้งครรภ์แฝดได้มากกว่าการตั้งครรภ์ในธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดเชื้อ ผสมเทียมซึ่งอาจมีไข่ตกมากกว่า 1 ใบ หรือจากการย้ายตัวอ่อนในขั้นตอนเด็กหลอดแก้ว ต่อให้ย้ายตัวอ่อน เพียงตัวเดียวก็ตาม

ก่อนการรักษาแพทย์จะอธิบายโอกาสการเกิดครรภ์แฝด ซึ่งถือเป็นภาวะเสี่ยงและถือเป็นภาวะไม่พึงประสงค์ของ การรักษา แต่ประโยคที่ได้ยินจากคู่สมรสบ่อยมากๆคือ ดีสินะท้องครั้งเดียวได้ 2-3 คนเลย หรือบางคู่ตั้งใจมารักษาให้ได้ครรภ์แฝด

แล้วมันดีจริงแบบนั้นรึไม่

American Journal of Obstetrics & Gynecology

ความจริงคือมดลูกถูกออกแบบมาให้รองรับทารก 1 คน ดังนั้นการตั้งครรภ์แฝดมีโอกาสเกิดการเจ็บครรภ์ คลอดก่อนกำหนด ซึ่งอวัยวะต่างๆของทารกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์เต็มที่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ใน NICU ถ้าปอดยังพัฒนาไม่เต็มที่จำเป็นต้องใช้ oxygen ปริมาณมากอาจมีผลต่อการทำงานของปอดและ เรตินา

(การใช้ corticosteroid เพื่อกระตุ้นการทำงานปอดของทารกในครรภ์ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม The National Institutes of Health แนะนำให้ใช้ในสตรีที่มีความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดควรได้รับยาทุกราย)

การเจริญเติบโตของทารกแฝดสองจะช้าลงเมื่ออายุครรภ์ 30-32 สัปดาห์ ครรภ์แฝดสามจะช้าลงเมื่ออายุครรภ์ 27-28 สัปดาห์ ครรภ์แฝดสี่จะช้าลงเมื่ออายุครรภ์ 25-26 สัปดาห์

นอกจากนี้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนในมารดา เช่น ภาวะซีด ครรภ์เป็นพิษ เบาหวานนขณะตั้งครรภ์ รกลอกตัว ก่อนกำหนด ตกเลือดหลังคลอด ฯลฯ

การตรวจติดตามการเจริญเติบโต ความผิดปกติของทารกในครรภ์แฝด

ระหว่างการตั้งครรภ์แฝดมีความจำเป็นต้องตรวจติดตามใกล้ชิดเรื่องการเจริญเติบโตและสุขภาพของทารก เนื่องจากพบการเจริญเติบโตช้ากว่าการตั้งครรภ์เดี่ยว ทารกน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์

การตรวจความผิดปกติโครโมโซมของทารกครรภ์แฝดยังมีข้อจำกัด

ในสตรีที่อายุน้อยกว่า 35 ปี การตรวจคัดกรอง Down syndrome อาจใช้การตรวจเลือดดูความเสี่ยงที่ทารกจะ ผิดปกติว่า เสี่ยงสูงหรือต่ำ เช่น Quad’s test ไม่สามารถแปลผลได้ในครรภ์แฝด

ในสตรีที่อายุมากกว่า 35 ปีตามมาตราฐานใช้การเจาะนำ้ครำ่ การแทงเข็มผ่านตัวมดลูกเพื่อดูดน้ำคร่ำออกมา นั้นมีโอกาสเกิดการติดเชื้อ การแท้ง ยิ่งแทงเข็มหลายครั้งเพราะถุงการตั้งครรภ์หลายถุงโอกาสเกิดภาวะ แทรกซ้อนก็มากตามขึ้นไปด้วย นอกจากนี้ยังมีโอกาสเกิดการปะปนกันของน้ำคร่ำทำให้การวินิจฉัยคลาด เคลื่อน ไม่ชัดเจนว่าเป็นของทารกคนใด ถ้าจะใช้การตรวจเลือดในมารดาเพื่อนำเซลล์ของทารกในเลือดมารดามาเพิ่มจำนวนและตรวจหาโครโมโซม (NIPT)ว่าผิดปกติหรือไม่นั้น The American College of Obstetricians and Gynecologists ยังไม่แนะนำให้ ใช้ในครรภ์แฝด นั่นก็หมายถึงมารดาอาจไม่ทราบอย่างแน่ชัดว่าทารกในครรภ์มีโครโมโซมผิดปกติหรือไม่

Note : ความผิดปกติของทารกมีหลายอย่าง เช่น อวัยวะมีจำนวนหรือโครงสร้างผิดปกติอาจเห็นได้จากคลื่น เสียงความถี่สูง โครโมโซมผิดปกติทราบจากการเจาะน้ำคร่ำ หรือการตรวจเลือดในมารดาซึ่งมีหลายเทคนิก มี ราคาและความแม่นยำที่แตกต่างกัน ความผิดปกตื เช่น ออทิสติกจะเห็นเมื่อทารกคลอดและมีพัฒนาที่ผิดปกติ ไป ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องทราบคือ ไม่มีทางทราบว่าทารกสมบูณ์ 100% แน่นอน เพียงแต่การตรวจด้วย เทคนิกต่างๆในขณะนั้นแสดงผลว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ

การเกิดภาวะ TTTS - Twin to twin transfusion syndromeในทารก กรณีแฝดที่เกิดจากไข่ใบเดียวกัน มีเลือด ไปเลี้ยงที่เด็กทั้งสองไม่เท่ากัน อาจจำเป็นต้องรักษาโดยการปิดเส้นเลือดที่เชื่อมต่อระหว่างถุงการตั้งครรภ์ทั้ง สอง

 

ถ้าการตั้งครรภ์ทารกหลายคนภาวะแทรกซ้อนมาก เราลดจำนานทารก (Multifetal reduction)ได้หรือไม่ การตั้งครรภ์แฝดสองหรือสามด้วยพัฒนาการทางการแพทย์ปัจจุบัน สามารถเลี้ยงประคับประคองได้ ผลการตั้ง ครรภ์และการคลอดไม่ได้แย่นัก แต่ถ้ามากกว่าสามคนมักเกิดการแท้ง หรือมีปัญหาระหว่างการตั้งครรภ์ค่อน ข้างมาก

กรณีต้องการลดจำนวนทารก เช่นตั้งครรภ์แฝดสี่อาจใช้การฉีดสาร potassium chloride เข้าในทารกซึ่งจะ ทำให้หัวใจทารกหยุดเต้น แต่อาจมีผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ คือทำให้ทารกที่เหลืออยู่เกิดการแท้งออกมาด้วย พบประมาณ 6-12%

ดังนั้นวัตถุประสงค์ของการตั้งครรภ์ด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ คือให้ได้ทารก จำนวนไม่มาก แต่สมบูรณ์ แข็งแรง

บทความโดย : พญ.พิชชา ปิ่นจันทร์